-ที่ประชุม ก.จ. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญ ดังนี้
1.หารือการดำเนินการทางวินัยกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดฐานอื่นนอกจากฐานทุจริต และการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ที่ประชุมมีมติเห็นว่าประเด็นหารือการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดจำนวน 4 ราย กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดฐานอื่นนอกจากฐานทุจริต นั้น เห็นว่า กรณีดังกล่าวมีแนวทางปฏิบัติตามบันทึกความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ 784/2562 เรื่อง การดำเนินการทางวินัยกับพนักงานเทศบาล กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดที่มิใช่การกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ซึ่งได้แจ้งเวียนให้ ก.จ.จ. ทุกจังหวัด ทราบ ตามหนังสือสำนักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต. ที่ มท 0809.5/ว 16 ลงวันที่ 16 กันยายน 2562 จึงให้ ก.จ.จ.พะเยา ถือปฏิบัติตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาทบทวนความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องเสร็จที่ 784/2562 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นประการใด จะแจ้งให้ ก.จ.จ.พะเยา ทราบต่อไป
สำหรับประเด็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั้ง 4 ราย ตามนัยมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 และมาตรา 86 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และการขอกลับปฏิบัติหน้าที่ราชการของข้าราชการที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ นั้น เห็นว่า ประเด็นหารือดังกล่าวเป็นปัญหาการใช้บังคับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อีกทั้งเป็นปัญหาในทางปฏิบัติและมีความสำคัญกับหลักความมั่นคงแห่งสิทธิของข้าราชการ จึงมีมติหารือคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อวางหลักปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นต่อไป
2. แผนดำเนินการสรรหาตำแหน่งสายงานผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการสรรหาตำแหน่งสายงานผู้บริหาร โดยให้สรรหาและขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาเป็นบัญชีเดียวทั้งประเทศ แต่ให้กระจายศูนย์สรรหาตามกลุ่มภาคเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ให้กับผู้เข้ารับการสรรหาในตำแหน่งสายงานผู้บริหาร และให้ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะที่ปรึกษาหรือคณะทำงาน
3. อปท. ร้องขอให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดำเนินการสอบแข่งขัน
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นดำเนินการสอบแข่งขันในตำแหน่งและอัตราว่างตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสงค์ให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นดำเนินการสอบแข่งขัน พร้อมนี้ ให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นจัดทำแผนและขั้นตอนการปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการสอบแข่งขันต่อไป

-ที่ประชุม ก.ท. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญ ดังนี้
1. แผนดำเนินการสรรหาตำแหน่งสายงานผู้บริหารของเทศบาล
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการสรรหาตำแหน่งสายงานผู้บริหาร โดยให้สรรหาและขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาเป็นบัญชีเดียวทั้งประเทศ แต่ให้กระจายศูนย์สรรหาตามกลุ่มภาคเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับการสรรหาในตำแหน่งสายงานผู้บริหาร และให้ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะที่ปรึกษาหรือคณะทำงาน
2. อปท. ร้องขอให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดำเนินการสอบแข่งขัน
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นดำเนินการสอบแข่งขันในตำแหน่งและอัตราว่างตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสงค์ให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นดำเนินการสอบแข่งขัน พร้อมนี้ ให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นจัดทำแผนและขั้นตอนการปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการสอบแข่งขันต่อไป
3. ขอยุบเลิกกองและหัวหน้าส่วนราชการ
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ดังนี้
(1) ยุบเลิกกองการประปา เทศบาล จำนวน 1 แห่ง
(2) ยุบเลิกตำแหน่งผู้อำนวยการกองการประปา (นักบริหารงานประปา ระดับต้น) จำนวน 1 อัตรา
4. หารือการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับสูงขึ้น
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับที่สูงขึ้น จำนวน 2 ราย
5. ขอให้เพิกถอนมติ ก.ท.จ.แพร่ ในการประชุมครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561
ที่ประชุมมีมติ ดังนี้
(1) การที่ ก.ท.จ.แพร่ ในการประชุมครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2561 มีมติให้เทศบาลส่งรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่งเทศบาล พร้อมความเห็นของนายกเทศมนตรี ให้ ก.ท.จ.แพร่ พิจารณาภายใน 15 วัน เป็นการทำหน้าที่ในการกำกับ ดูแล ตรวจสอบ และแนะนำชี้แจงให้การปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยพนักงานเทศบาลให้เป็นไปโดยถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงยังไม่ปรากฏว่ามติดังกล่าวขัดหรือแย้งกับมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยฯ จึงยังไม่เข้าองค์ประกอบกรณีตามนัย มาตรา 19 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และมีมติยกคำร้องของผู้ร้อง และแจ้งผลให้ผู้ร้องทราบ
(2) ให้แจ้งผลการพิจารณาตาม (1) และข้อพิจารณาของ อ.ก.ท.มาตรฐานวินัย เพื่อเป็นข้อสังเกตประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยผู้ร้อง ของ ก.ท.จ.แพร่ ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
6.หารือแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย
ที่ประชุมมีมติ ดังนี้
(1) เมื่อนายก อบต. ยังไม่ได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ลงโทษตัดเงินเดือนพนักงาน 5% เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2549 เป็นต้นไป ก่อนหรือในวันที่ 5 ธ.ค. 2550 อันเป็นวันที่ พ.ร.บ. ล้างมลทินฯ พ.ศ. 2550 มีผลใช้บังคับ พนักงานผู้ถูกลงโทษทางวินัยและได้รับโทษหรือรับทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อนหรือในวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับย่อมได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าว ทำให้ไม่ต้องถูกดำเนินการทางวินัยในกรณีนั้นต่อไป ทั้งนี้ เทียบเคียงบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 674/2552
(2) เมื่อพิจารณาในประเด็นที่ (1) เห็นว่าพนักงานได้รับการล้างมลทินไปแล้ว แม้ต่อมาวันที่ 1 เมษายน 2555 พนักงานจะโอนไปเป็นพนักงานเทศบาลสังกัด เทศบาลตำบลและสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แจ้งมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินการทางวินัยพนักงานในมูลกรณีเดียวกันกับที่พนักงานได้รับประโยชน์จากการล้างมลทินไปแล้ว นายกเทศมนตรีย่อมไม่อาจดำเนินการทางวินัยแก่พนักงานในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป ทั้งนี้ เทียบเคียงบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 234/2552
7. การโอนพนักงานเทศบาลกรณีมีเหตุผลความจำเป็น.
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้โอน จำนวน 1 ราย

-ที่ประชุม ก.อบต. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญ ดังนี้
1. อปท. ร้องขอให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ดำเนินการสอบแข่งขัน
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นดำเนินการสอบแข่งขันในตำแหน่งและอัตราว่างตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสงค์ให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นดำเนินการสอบแข่งขัน พร้อมนี้ ให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่นจัดทำแผนและขั้นตอนการปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการสอบแข่งขันต่อไป
2. การแก้ไขประกาศ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ วิธีการบริหาร และการปฏิบัติงานของพนักงานส่วนตำบลและกิจการอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลในองค์การบริหารส่วนตำบล ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ที่ประชุมมีมติเห็นว่าเพื่อให้การจัดตั้งส่วนราชการ การกำหนดชื่อส่วนราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลมีความชัดเจน เหมาะสมสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และสภาวการณ์ในปัจจุบัน จึงเห็นชอบให้ดำเนินการ ดังนี้
(1) แก้ไขประกาศ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ วิธีการบริหารและการปฏิบัติงานของข้าราชการพนักงานส่วนตำบล และกิจการอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลใน อบต. ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สาระสำคัญคือการกำหนดส่วนราชการหลัก และส่วนราชการที่อาจมี เพื่อกำหนดส่วนราชการ สำนัก/กองใหม่ให้สอดคล้องกับภารกิจของ อบต. โดย อบต. ประเภทสามัญกำหนดส่วนราชการหลัก 4 ส่วนราชการ สำหรับ อบต. ประเภทสามัญระดับสูงและประเภทพิเศษกำหนดส่วนราชการหลัก 8 ส่วนราชการจะมีส่วนราชการหลัก 8 ส่วนราชการ คือ สำนักปลัด อบต. และกำหนดส่วนราชการที่อาจจัดตั้งได้อีก 18 กอง
(2) แก้ไขประกาศกำหนดกองหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นขององค์การบริหารส่วนตำบล ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2545 โดยมีหลักการสำคัญ คือ การกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนัก/กองต่างๆ ทั้งนี้ ประกาศทั้ง 2 ฉบับ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ที่มีการแก้ไขตามข้อ (1)
3. ชมรมรองปลัดกลาง อบต.118 ร้องเรียนงานด้านบริหารงานบุคคลฯ
ที่ประชุมมีมติดังนี้
(1) กรณีที่ 1 กรณีการร้องขอแก้ไขข้อความเกี่ยวกับการตราข้อบัญญัติเพื่อการลงทุนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในปีงบประมาณที่ผ่านมา มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีและฉบับเพิ่มเติม (ถ้ามี) เป็น “มีสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีและฉบับเพิ่มเติม (ถ้ามี) ทั้งนี้ รวมรายการโอนงบประมาณระหว่างปีงบประมาณด้วย” จึงไม่เหมาะสม เพราะจะทำให้ประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและการกำหนดระดับตำแหน่งขององค์การบริหารส่วนตำบลมีความเหลื่อมล้ำไม่เป็นมาตรฐานที่สอดคล้องกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาล
(2) กรณีที่ 2 กรณีขอให้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติตามประกาศ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ที่กำหนดว่า“องค์การบริหารส่วนตำบลจะต้องมีหัวหน้าส่วนราชการระดับกองหรือเทียบเท่า ซึ่งมีผู้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการท้องถิ่น ระดับกลาง อย่างน้อย 1 ส่วนราชการขึ้นไป และให้ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลมีคำสั่งมอบหมายให้รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล เลขที่ตำแหน่งนั้นรับผิดชอบกลั่นกรองงานของส่วนราชการระดับกลาง อย่างน้อย 1 ส่วนราชการ” การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเป็นไปตามหลักการวิเคราะห์ค่างานเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดตำแหน่งหรือปรับปรุงตำแหน่งรองปลัดองค์การบริหารบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ดังกล่าวจึงเหมาะสมแล้ว ประกอบกับเป็นมาตรฐานที่สอดคล้องกับประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและการกำหนดระดับตำแหน่งของเทศบาล พ.ศ. 2558 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2558 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563
(3) กรณีที่ 3 การกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้องค์การบริหารส่วนตำบลต้องมีภาระค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานบุคคลตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคล พ.ศ. 2542 ในปีที่ผ่านมาและปีที่ขอปรับปรุงตำแหน่งเฉลี่ยรวมกันแล้วไม่เกินร้อยละ 35 จึงเหมาะสมแล้ว
(4) กรณีที่ 4 กรณีขอให้ทบทวนแก้ไขมาตรฐานกำหนดตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) เพื่อกำหนดคุณสมบัติให้รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) สามารถเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ไม่เห็นชอบให้ปรับคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) เนื่องจากอาจจะไปกระทบกับสิทธิ์ของตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) ที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบัน
(5) กรณีที่ 5 กรณีตำแหน่งรองปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ยังไม่มีการสรรหาเนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง จึงขอให้เทศบาลที่มีตำแหน่งรองปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ที่ว่างสามารถขอใช้บัญชีตำแหน่งรองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ไปแต่งตั้ง ไม่อาจกระทำได้เนื่องจากขัดแย้งกับประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง รับสมัครพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 และประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง การขึ้นบัญชีและยกเลิกบัญชีพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 31 มีนาคม 2563
4. ขอให้คุ้มครองสิทธิผู้ที่ได้รับผลกระทบจากประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล
ที่ประชุมมีมติดังนี้
(1) เรื่องการชะลอการปรับโครงสร้างขององค์การบริหารส่วนตำบล ตามประกาศ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งขององค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ไม่สามารถชะลอได้เนื่องจากได้ดำเนินการแจ้งเวียนประกาศไปยังทุกจังหวัดเป็นที่เรียบร้อย
(2) ประเด็นการขอให้ ก.อบต. ดำเนินการเรียกบรรจุผู้ผ่านการสรรหาไปดำรงตำแหน่งต่างๆ โดยเร็ว และการขอขยายอายุบัญชีของผู้ผ่านการสรรหาจากหนึ่งปีขยายออกไปอีกตามความเหมาะสม เมื่อพิจารณาประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 กำหนดว่า บัญชีผู้ผ่านการสรรหามีอายุไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันประกาศขึ้นบัญชี จึงพิจารณาได้ว่า ก.อบต. ไม่มีเหตุผลความจำเป็นในการขยายอายุบัญชีผู้ผ่านการสรรหาดังกล่าวแต่อย่างใด และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศดังกล่าวด้วย
(3) ประเด็นการขอให้ ก.อบต. เร่งดำเนินการสรรหาผู้บริหารในตำแหน่งที่มีผู้สอบผ่านน้อยกว่าอัตราจริงตามรอบระยะเวลาที่กำหนด คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 มีมติให้แก้ไขประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ก่อน แล้วจึงดำเนินการสรรหาต่อไป
5. ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกรณีการปรับโครงสร้างองค์การบริหารส่วนตำบล
ที่ประชุมมีมติดังนี้
(1) การขอแก้ไขประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง ประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งขององค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2562 ข้อ 6.1 จากเดิม “ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ให้เป็นประเภทบริหารท้องถิ่น ระดับกลาง” เป็น “ตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ให้เป็นประเภทบริหารท้องถิ่น ระดับต้น/กลาง” ไม่เหมาะสม
(2) ผู้ร้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง ประกาศมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งขององค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2562 หรือไม่ กรณีผู้ร้องเป็นผู้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) เป็นผลจากการดำเนินการสรรหาตามประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ข้อ 12 (1) ซึ่งจะประกาศรับสมัครสรรหาพนักงานส่วนตำบลในตำแหน่งสายงานผู้บริหารตามจำนวนที่องค์การบริหารส่วนตำบลรายงานตำแหน่งว่างให้ ก.อบต. ดำเนินการสรรหา ข้อเท็จจริงปรากฏว่า คณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารได้มีประกาศเรื่อง รับสมัครสรรหาพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ในตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) จำนวน 46 อัตรา โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในฐานะผู้ควบคุมการใช้บัญชีผู้ผ่านการสรรหาได้ดำเนินการเรียกใช้บัญชีผู้ผ่านการสรรหาในตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) เรียงตามลำดับที่และตามจำนวนอัตราตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลรายงานให้ ก.อบต. ดำเนินการสรรหาครั้งแรก 46 อัตรา ซึ่งได้เรียกรายงานตัวและส่งไปบรรจุและแต่งตั้งโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นตำแหน่งว่างที่ได้ประกาศให้ทราบตั้งแต่ประกาศรับสมัครแล้วตั้งแต่ต้น การประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งขององค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 จึงมิได้ส่งผลกระทบกับการประกาศรับสมัครสรรหาพนักงานส่วนตำบลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ในตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) และจำนวนอัตราตำแหน่งว่างที่ประกาศให้ทราบแล้วตั้งแต่ครั้งแรกแต่อย่างใด ทั้งนี้ กรณีตำแหน่งที่ว่างเกิน 60 วัน หากองค์การบริหารส่วนตำบลรายงานตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) เพิ่มเติมภายหลังจากประกาศรับสมัครไปแล้ว ก็จะเป็นตำแหน่งว่างที่เรียกใช้จากบัญชีผู้ผ่านการสรรหาดังกล่าวได้เพิ่มเติมอีก จึงพิจารณาเห็นว่า ข้อ 6.1 แห่งประกาศคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างส่วนราชการและระดับตำแหน่งขององค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ร้อง ตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
6. หารือการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับสูงขึ้น
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับที่สูงขึ้น จำนวน 1 ราย

ที่มา เฟซบุ๊ก ท่านรองอธิบดี 

Suntithorn Yimlamai

https://www.facebook.com/suntithorn.yimlamai