การประชุมคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.จ.) คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (ก.ท.) คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล ((ก.อบต.) และการประชุมร่วม3 ก. ครั้งที่ 2/2563
เว็บมาสเตอร์ |
การประชุมคณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.จ.) คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล (ก.ท.) คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล ((ก.อบต.) และการประชุมร่วม3 ก. ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.00 - 16.00 น.
ณ ห้องประชุม5501 อาคาร 5 ชั้น 5 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยมีนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุม เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการ เข้าร่วมการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมร่วม 3 ก. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การแก้ไขประกาศ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ประชุมเห็นชอบการแก้ไขประกาศ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. ให้ส่วนกลางเป็นหน่วยดำเนินการสรรหา โดยกำหนดการสรรหาอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือตามข้อเท็จจริงว่ามีตำแหน่งว่างลงหรือไม่ 2. กำหนดองค์ประกอบคณะอนุกรรมการดำเนินการสรรหาให้มีสัดส่วนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3. กำหนดการสรรหาและขึ้นบัญชีการสรรหาเป็นกลุ่มภาค/เขต ตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก.อบต. กำหนดในแต่ละครั้งและเมื่อมีตำแหน่งว่างหรือไม่มีบัญชีฝ่ายการสรรหาให้ดำเนินการสรรหาต่อไป 4. การกำหนดให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนข้าราชการส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการสอบภาคความเหมาะสม (สอบสัมภาษณ์) 5. หลักสูตรวิธีการสรรหา กำหนดให้มี 2 รูปแบบ คือ 5.1 การสอบคัดเลือก กำหนดให้มีการทดสอบภาคความรู้ความสามารถและทดสอบภาคความเหมาะสม 5.2 การคัดเลือก กำหนดให้มีการทดสอบภาคความรู้ความสามารถโดยการทดสอบสมรรถนะทางบริหารและข้อเขียนอัตนัย และทดสอบภาคความเหมาะสม -ในส่วนของที่ประชุม ก.จ. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญเพิ่มเติม ดังนี้ 1. หารือการดำเนินการทางวินัย การพิจารณาโทษทางวินัย และการลงโทษทางวินัยข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ อ.ก.จ.มาตรฐานวินัยฯ เสนอ ในกรณีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสอนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2560 นั้น เนื่องจากต่างกรรมต่างวาระ จึงสามารถตั้งกรรมการสอบสวนได้ต่างกรรมต่างวาระที่ปรากฏตามข้อเท็จจริง แต่สำนวนการสอบสวนไม่แล้วเสร็จบางสำนวนยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นที่ ก.จ.จ.กำหนด และในบางสำนวนที่ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่เกี่ยวข้อง กรณีดังกล่าวนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องเสนอ ก.จ.จ.เพื่อมีมติติดตามเร่งรัดการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามนัยข้อ 58 ของประกาศ ก.จ. เรื่องมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยฯ ต่อไป 2. หารือการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับสูงขึ้น จำนวน 1 ราย -ในส่วนของที่ประชุม ก.ท. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญเพิ่มเติม ดังนี้ 1. ทบทวนมติข้อหารือเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัครคัดเลือกตำแหน่งนักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ อ.ก.ท.โครงสร้างฯเสนอ กรณีพนักงานเทศบาล เดิมดำรงตำแหน่งปลัดระดับกลาง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองปลัดเทศบาลระดับกลาง จะสามารถคัดเลือกสูงขึ้นเป็นตำแหน่งปลัดเทศบาลระดับสูงได้หรือไม่ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวไม่สามารถเข้ารับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนระดับสูงขึ้นเป็นปลัดเทศบาลระดับสูงที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งได้ 2. การขอความธรรม กรณีเทศบาลตำบลมีคำสั่งย้ายพนักงานเทศบาลจากตำแหน่งรองปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) ตามมติที่ประชุม ก.ท.จ. เนื่องจากการเข้าสู่ตำแหน่งไม่ถูกต้อง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ อ.ก.ท.โครงสร้างฯเสนอ ด้วยกรณีดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ดังนั้น ฝ่ายบริหารไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวล่วงใดๆ ได้ เนื่องจากอาจเป็นการละเมิดอำนาจศาลและเมื่อได้มีการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว คู่กรณีย่อมมีหลักประกันในความยุติธรรมและสิทธิในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆในชั้นกระบวนการพิจารณาของศาลอย่างเพียงพอ เมื่อศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งคดีเสร็จเด็ดขาดประการใดย่อมส่งผลผูกพันต่อคู่กรณี หรือรัฐให้ปฏิบัติตาม 3. การขอความเป็นธรรม กรณี ก.ท.จ. มีมติเห็นชอบให้ย้ายพนักงานเทศบาล จากตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับกลาง) ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับต้น) ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ อ.ก.ท.โครงสร้างฯเสนอ ด้วยกรณีบุคคลดังกล่าว เทศบาลยังมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมติ ก.ท.จ. จึงถือว่ายังไม่ได้รับผลกระทบ การร้องขอความเป็นธรรมจึงไม่อาจพิจารณาได้ ประกอบกับการดำเนินการดังกล่าวเป็นการดำเนินการสืบเนื่องจากประกาศ ก.ท. ซึ่งเป็นกฎที่มีผลบังคับใช้ทั่วไปย่อมมีความเป็นธรรมแก่ทุกคน เมื่อผู้ร้องตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎนี้จึงต้องคำนึงถึงสภาพบังคับแห่งกฎเช่นเดียวกัน จึงให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว 4. หารือการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับสูงขึ้น จำนวน 1 ราย -ในส่วนของที่ประชุม ก.อบต. ได้พิจารณาเรื่องสำคัญเพิ่มเติม ดังนี้ 1. หารือการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องและเกื้อกูลเพื่อประโยชน์ในการเลื่อนระดับสูงขึ้น จำนวน 2 ราย 2. ขอความอนุเคราะห์พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัด มีคำสั่งให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นออกจากราชการ กรณีการดำเนินการสอบแข่งขันเป็นไปตามมาตรฐาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ อ.ก.อบต.กฎหมายเสนอ ด้วยไม่มีเหตุที่ ก.อบต. จะต้องกำหนดมาตรการเยียวยาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกสั่งให้ออกจากราชการตามผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการการปกครอง เนื่องจากเป็นการดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ประกอบกับมีการฟ้องต่อศาลปกครอง ดังนั้น เห็นควรรอการพิจารณาของศาลปกครอง เพราะหากศาลปกครองมีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นประการใด ก็ผูกพันคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้ ตามนัยมาตรา ๗๐ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 3. หารือกรณีพนักงานส่วนตำบลขอลาออกจากราชการ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ อ.ก.อบต.มาตรฐานวินัยฯ เสนอ กรณีพนักงานส่วนตำบลยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ฉบับลงวันที่ 16 ตุลาคม 2562 โดยขอลาออกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 จึงมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งพนักงานส่วนตำบลอาจยื่นหนังสือถอนหรือระงับการลาออกได้ก่อนวันที่ลาออกมีผล แต่พนักงานส่วนตำบลผู้นั้นยื่นเรื่องระงับการลาออกหลังวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ดังนั้น เมื่อการลาออกของพนักงานส่วนตำบลมีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 แม้ว่า อบต. ยังไม่มีคำสั่งให้พนักงานส่วนตำบลผู้นั้นออกจากราชการก็ตาม การที่ขอถอนหนังสือขอลาออกภายหลังวันที่การลาออกมีผล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลอนุญาตให้ลาออกแล้ว จึงไม่มีผลลบล้างการแสดงเจตนาที่ขอลาออกจากราชการ เมื่อเรื่องที่ อบต. รายงานในกรณีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ ก.อบต.จังหวัด กรณีดังกล่าว ก.อบต.จังหวัดจึงต้องพิจารณาโดยเร็วเพื่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจะได้มีคำสั่งให้พนักงานส่วนตำบลผู้นั้นออกจากราชการ เพราะเหตุลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ต่อไป CRเฟซบุ๊ก Suntithorn Yimlamai รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น Link: คลิ๊กที่นี่ |